การชุบเครื่องประดับ ชุบแหวน ชุบเงิน ชุบทอง ชุบนาค ชุบโรเดียม ชุบทองคําขาว ชุบพิ้งโกล - Jewelry Plating Silver Gold Pink Gold

เมื่อเครื่องประดับได้เดินทางมาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว นั้นคือ ขั้นตอนในการชุบเครื่องประดับเปรียบเสมือนการใส่เสื้อผ้าของคน ซึ่งจะสวยงามากแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับลายผ้าที่สวมใส่  ซึ่งการชุบเครื่องประดับเการเหมือนกันเป็นการทำให้เครื่องประดับดูดี มีราคามากยิ่งขึ้น

การชุบเครื่องประดับด้วยโลหะด้วยไฟฟ้า

เป็นการนำโลหะมาเคลือบลงบนชิ้นงาน โดยโลหะที่จำนำมาชุบเครื่องประดับนั้นอาจจะเป็นโลหะชนิดเดียวกัน หรือคนละชนิดก็ได้ โดยการนำชิ้นที่ต้องการชุบเครื่องประดับต่อเข้ากับขั้วลบของแหล่งกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง และต่อกับแผ่นโลหะขั้วบวก จากนั้นนำชิ้นงานและแผ่นโลหะจุ่มลงไปในนำยาชุบเครื่องประดับ เมื่อกระแสไฟมีการเคลื่อนที่ โลหะก็จะวิ่งไปยังชิ้นงานได้ทันที

ชนิดของโลหะที่นิยมใช้ในการชุบเครื่องประดับ

1.ทองคำ จะเป็นทองคำบริสุทธ์ที่ไม่ผ่านการผสมใดๆ จุดเด่นของทองคำ คือ มีสีทองสดใส ไม่สึกกร่อนและไม่หมอง

2.โรเดียม เป็นโลหะมีค่าในกลุ่มของแพลทินัม นิยมนำมาใช้เป็นนำยาชุบเครื่องประดับเงินผิวของตัวเรือนเครื่องประดับ เนื่องจากมีความแข็งสูง สามารถทนทานต่อการสึกกร่อนและทนทานต่อรอยสีข่วนได้ดี อีกทั้งยังกันความหมองให้กับเครื่องประดับได้อีกด้วย

3.เงิน ซึ่งนั้นมีสีแวววาว แต่เงินนั้นจะเกิดการหมองได้ง่าย เมื่อโดนอากาศ จึงทำให้หลังจากการชุบเครื่องประดับด้วยเงินแล้ว จะชุบโรเดียมอีกชั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันความหมองบนตัวเรือนเครื่องประดับนั่นเอง

4.พาลาเดียม จะนิยมชุบแหวนในเครื่องประดับเนื่องจาก พาลาเดียม ทนทานต่อการกัดกร่อนของกรดและด่างได้ดี

รูปแบบของการชุบเครื่องประดับ

ในห้องปฏิบัติการของโรงงานอุสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเครื่องประดับนั้น มีรุปแบบของการชุบแหวนตัวเรือนไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับความถนัดและอุปกรณ์ความพร้อมของแต่ละสถานที่

1.การชุบแหวนแบบแขวน

เป็นวิธีการชุบแหวนที่นิยมกันมากที่สุดในการชุบเครื่องประดับ ซึ่งลักษณะของชิ้นงานจะต้องแขวนด้วยตะขอ หรือสามารถผูกกับลวดทองแดงแล้วนำมาผูกไว้กับตะแกรงชุบเครื่องประดับได้ ในการชุบเครื่องประดับแบบนี้จะมีตะแกรงที่มีชิ้นงานแขวนอยู่ลงไปแช่ในน้ำยาชุบเครื่องประดับ

ข้อควรคำนึงในการชุบเครื่องประดับแบบแขวน

·        ตะแกรงบนตระแกรงในการแขวนชิ้นงานนั้นจะต้องอยู่ตรงจุดกึ่งกลาง

·        จุดสัมผัสระหว่างตะขอกับชิ้นงานต้องต้องนำไฟฟ้าได้ดี

·        ตะขอที่แขวนนั้นควรทำจากสแตนเลส เพื่อง่ายต่อการลอกผิวโลหะที่เคลือบออก

2.การชุบเครื่องประดับแบบถังหมุน

เป็นการชุบเครื่องประดับที่เหมาะสำหรับชิ้นงานขนาดเล็ก ซึ่งการชุบเครื่องประดับแบบนี้จะนำชิ้นงานใส่ลงไปในถังพลาสติกที่มีขั้วไฟฟ้าสัมผัสกับชิ้นงานจากกนั้นก็หมุนถังเพื่อทำการชุบแหวน

ข้อดีของการชุบเครื่องประดับแบบนี้คือ ไม่ต้องเสียเวลาในการผูกกับชิ้นงานลงบนตะแกรง และสามารถชุบแหวนตัวเรื่องเครื่องประดับในจำนวนที่มากได้ทันที และยังเหมาะสำหรับการชุบเครื่องประดับชิ้นงานที่ผ่านการขัดเงามา แต่ข้อเสียก็คือ เมื่อชิ้นงานมีการเคลื่อนที่ได้แบบไม่อิสระ ก็จะทำให้ชิ้นกันชนกัน ทำให้เกิดการบิดงอและทำให้ชิ้นงานเครื่องประดับเกิดความเสียหายหรือเป็นรอยได้

3.การชุบแบบทาด้วยปากกา

เหมาะสำหรับการชุบเครื่องประดับผิวเฉพาะจุด หรือบริเวณพื้นที่เล็กๆ เช่น หนามเตยของแหวน และเหมาะสำหรับการชุบแบบ 2 สี  ซึ่งการใช้งานจะง่ายกว่าแบบแขวน เพียงแค่ทาบริเวณที่ไม่ต้องการชุบแหวนด้วยแลกเกอร์ แล้วก็นำชิ้นงานไปชุบแหวนได้ทันที บริเวณทาแลกเกอร์ไว้นั้นก็จะไม่มีร่องรอยการชุบเครื่องประดับ แต่การชุบแหวนแบบนี้จะไม่สามารถชุบเครื่องประดับให้มีความหนาได้ และชิ้นงานที่ใช้ขั้นตอนการชุบแหวนวิธีนี้ จะต้องนำไปทำความสะอาดและเช็ดให้แห้งก่อนที่นำมาชุบแหวนได้

4.การชุบแบบใช้เครื่องสั่น

เป็นการชุบแหวนที่อาศัยแรงสั่นสะเทือน ซึ่งจะทำให้ชิ้นงานเคร่องประดับมีการเคลื่อนที่อย่างช้าๆ และสม่ำเสมอ ทำให้ผิวที่ได้จากการชุบแบบนี้จะมีผิวที่สม่ำเสมอ และชิ้นงานไม่เกิดความเสียหาย และยังเป็นการใช้น้ำยาชุบแหวนในปริมาณน้อยแต่ได้ผลลัพธ์ที่ดีอีกด้วย

5.การชุบแบบเครื่องชุบสร้อย

เป็นการชุบเครื่องประดับประเภท สร้อย โดยเฉพาะซึ่งการชุบแบบนี้จะช่วยลดปัญหาการเคลื่อนตัวของสร้อยยาก หลังจากการชุบ นอกจากนี้ วิธีนี้ยังเป็นการทำให้การชุบมีความหนาและสม่ำเสมอทั่วทั้งชิ้นงานอีกด้วย

อุปกรณ์ที่ใช้ในการชุบแหวน

1.ชิ้นงานต้องการจะชุบแหวน

2.อุปกรณ์จ่ากระแสตรงไฟฟ้า

3.แผ่นล่อ หรือแผ่นโลหะ เป็นวัสดุที่ต่อกับขั้วบวกหรือขั้วลบของแหล่งจ่ายไฟฟ้ากระแสตรง

ซึ่งจะมี 2 ชนิด คือ ละลายได้ กับละลายไม่ได้

·        แผ่นล่อที่ละลายได้   จะเกิดการละลายโดยการแตกตัวให้ประจุโลหะเข้าไปแทนที่โลหะของผิวที่เคลือบ

·        แผ่นล่อที่ละลายไม่ได้  จะไม่ละลาย ซึ่งในการใช้งานจะต้องมีการเติมเกลือของโลหะที่ทำการชุบแหวนเข้าไปแทนที่โลหะที่ถูกใช้ไปนั่นเอง

4.น้ำยาชุบแหวน ซึ่งจะมีส่วนผสมของสารเคมีพื้นฐานและสารเคมีที่ทำให้เกิดความเงางาม

·        สารเคมีพื้นฐาน

o   เกลือโลหะที่ใช้ในการชุบแหวน

o   สารเพิ่มการนำไฟฟ้าให้กับน้ำยาชุบแหวน

o   สารควบคุมความสมดุล

o   สารประกอบโลหะ

·        สารเคมีที่ทำให้เกิดความเงางาม ซึ่งสารเคมีชนิดนี้จะช่วยให้ชุบแหวนติดบนผิวของตัวเรือนเครื่องประดับได้ง่าย

5.ถังชุบแหวน เป็นถังที่ใช้ในการชุบเครื่องประดับโดยเฉพาะ ซึ่งมีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับประเภทของน้ำยาชุบแหวน และจำนวนชิ้นงานที่ต้องการชุบแหวน มีทั้งทำจากโลหะและพลาสติก

6.อุปกรณ์เสริม ได้แก่

·        ชุดควบคุมอุณหภูมิ

·        นาฬิกาจับเวลา

·        เครื่องกรองน้ำยาชุบแหวน

·        ชุดดูดไอสารเคมี

ซึ่งอุปกรณ์ต่างๆพวกนี้ต้องใช้อย่างระมัดระมัด เพราะเป็นสารเคมีที่สามารถเกิดอันตรายได้

ข้อควรระวังในการชุบเครื่องประดับ

1.ใช้สารเคมีต่างๆ เช่น นำยาชุบแหวน ให้มีความระมัดระมัดและรอบคอบ เนื่องจากอาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดจากความประมาทของตนเอง ทำให้ได้รับบาดเจ็บได้

2.ตรวจสอบชิ้นงานเครื่องประดับให้ดีก่อนที่จะทำการชุบแหวน เพราะหากว่าชิ้นงานเกิดข้อบกพร่องแต่นำไปชุบแหวนแล้ว จะไม่สามารถแก้ไขได้ และทำได้ยาก

3.ใส่ชุดและอุปกรณ์ในการป้องกัน เนื่องจากว่าห้องชุบแหวนนั้นจะเป็นห้องที่มีแต่สารเคมี และผู้ที่ทำการชุบแหวนควรที่จะสวมถุงมือ และผ้าปิดปาก เพื่อปกป้องเคมีมาโดนผิวหนัง

4.ไม่ควรหยอกล้อและเล่นกันภายในห้องชุบแหวน เนื่องจากว่าห้องชุบแหวนนั้นมีสารเคมี หากผู้ที่ทำการชุบแหวนหยอกล้อหรือเล่นกัน สารเคมีอาจจะหกมาโดนผิวหนังหรือส่วนอื่นของผู้ทำการชุบก็เป็นได้

5.ในกรณีที่บางคนเกิดอาการแพ้สารเคมีในห้องชุบนั้น ควรต้องรีบไปพบแพทย์ และทำการรักษาอย่างทันท่วงที อย่าปล่อยไว้นานจะเกิดอาการเรื้อรังขึ้นมาได้ ทางที่ดีที่สุดควรต้องไปพบแพทย์

6.ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มมารับประทานในห้องชุบ เพราะห้องนี้เป็นการทำงานที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีโดยตรง อาหารและเครื่องดื่มจึงไม่ควรนำเข้ามาบริเวณที่ทำการชุบเครื่องประดับโดยเด็ดขาด เพื่อที่จะเกิดความปลอดภัยของผู้ทำชุบชิ้นงานเครื่องประดับเอง

ในการชุบนั้นควรที่จะศึกษาขั้นตอนและการบวนการชุบแหวนให้ละเอียดและมีความเข้าใจที่ดีเสียก่อน

เพราะหากว่านำชิ้นงานลงไปในชุบในโลหะผิดประเภทอาจจะเกิดความเสียหายต่อชิ้นงานได้ และในการชุบจะต้องชุบเครื่องประดับจำนวนมาก และต้องใช้เวลาพอสมควร ผู้ทำการชุบจะต้องเตรียมชิ้นงานให้เรียบร้อยก่อนที่จะนำไปชุบ และควรจะเตรียมอุปกรณ์การชุบให้พร้อมอยู่เสมอ เมื่อถึงเวลาที่ชิ้นงานถูกส่งเข้ามายังห้องชุบแล้วจะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือ และสามารถชุบชิ้นงานเครื่องประดับออกมาได้ทันที  การชุบเครื่องประดับเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้เครื่องประดับมีความสวยงาม แวววาว คงทน รวมถึงยังสามารถป้องการการขัดสี การสึกกร่อน อีกทั้งยังกันความหมองได้อีกด้วย เมื่อเครื่องประดับทำการชุบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีการทำความสะอาดในส่วนของชิ้นงาน เพื่อที่จะเตรียมการบรรจุส่งไปยังลูกค้าต่อไป แต่หากว่าแผนกตรวจสอบมีการทดสอบแล้วว่าขั้นตอนในการชุบยังไม่ผ่านมาตรฐานก็จะทำการส่งต่อให้แผนกชุบ แก้ไขงาน เมื่อแก้ไขงานเสร็จแล้ว ก็จะทำการส่งมอบให้ลูกค้า

***********************************

ตัวอย่าง : ชุบเหรียญ

***********************************

ตัวอย่าง : ชุบอะไหล่อุปกรณ์เพื่อให้กระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านได้ดีขึ้น

***********************************

ตัวอย่าง : ชุบจาน ชุบถาด ชุบช้อน ชุบส้อม

***********************************

7 คำถามที่ลูกค้าสงสัย และ อยากรู้คำตอบ

1.ทำไมราคาชุบเครื่องประดับแต่ละที่แตกต่างกัน (ราคาต่างกัน) ?

ตอบ : ราคาขึ้นอยู่กับคุณภาพของการชุบ และ คุณภาพของหัวเชื้อ แต่ละโรงงานจะห่วงน้ำยาชุบมาก และ จะใส่น้ำยาหัวเชื้อในปริมาณที่น้อยๆ หรือ ใช้น้ำยาปลายๆแถว (ง่ายๆคือใส่หัวเชื้อน้อยเพื่อประหยัดต้นทุน) แต่ของโรงงานเราใส่หัวเชื้อ100%เต็มอัตรา เพื่อได้สินค้าที่มีคุณภาพส่งออก และเป็นที่ยอมรับ เรารักษาคุณภาพของสินค้า 100% แต่ราคาของเราก็ยังเป็นราคาโรงงาน 

**หลังจากรับสินค้าลูกค้ามาแล้ว**

1.ล้างคราบสกปรกเครื่องประดับของเก่าออกให้หมด

2.ขัดเครื่องประดับใหม่ + ปัดเงาใหม่ (ทำให้สินค้าเงาใสเหมือนส่องกระจก)

3.ชุบตามสีที่ต้องการ

4.ชุบอีโค๊ด

5.เคลือบกันหมอง

6.แพ็คใส่ถุงแก้วใส

****

2.ทำไมชุบที่อื่นแล้วสินค้าหมองเร็ว ดำเร็ว ลอกเร็ว บางครั้งใส่แค่ 1-2ครั้ง เอง ?

ตอบ : โรงงานอื่นใส่น้ำยาหัวเชื้อในปริมาณที่น้อยๆ หรือ ใช้น้ำยาปลายๆแถว

****

3.ที่นี้ก่อนชุบจะขัดเงา+ปัดเงาตัวเรือนเครื่องประดับให้ก่อนไหม ?

ตอบ : ที่นี้ก่อนชุบสินค้าให้ลูกค้าทุกชิ้น จะขัดเงาผิวเครื่องประดับจิวเวลรี่ให้ก่อนชุบทุกชิ้น

****

4.ใช้เวลาชุบกี่วัน ?

ตอบ : ถ้าจำนวนน้อยๆ 1-2วัน / ถ้ามีจำนวนเยอะๆ ระยะเวลาการชุบขึ้นอยู่จำนวนของสินค้า

****

5.อยากรู้ว่า ราคาชุบเครื่องประดับจิวเวลรี่ เท่าไร ?

ตอบ : ราคา ชุบแหวน ชุบจี้ ชุบต่างหู ชุบสร้อยคอ ชุบกำไล ของที่นี้ไม่แพง เพราะเป็นโรงชุบ และสินค้าแต่ละประเภท ราคาไม่เหมือนกัน ราคาจะแตกต่างกัน เช่น แหวนก็จะมีแหวนเล็ก แหวนใหญ่ สร้อยก็จะมีสร้อยเล็ก สร้อยใหญ่ ราคาจะขึ้นอยู่กับชิ้นงาน(ขนาด)ของสินค้า และ น้ำหนักของสินค้านั้นๆ (ส่งสินค้ามาประเมินราคาก่อนชุบได้)  

****

6.อยากชุบสินค้าปริมาณมากๆ จะได้ราคาส่ง(พิเศษ)ไหม ?

ตอบ : ยิ่งมีสินค้าชุบในปริมาณมาก ราคาก็จะยิ่งถูกลง แจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลยว่าชุบกี่ชิ้น

****

7.ขั้นตอนการรับบริการชุบเครื่องประดับจิวเวลรี่ ?

ตอบ : 

7.1 : แอดไลน์ 

Line: @umasilver925 

หรือกดลิ้งตรงนี้ > line.me/ti/p/@umasilver925

7.2 : ส่งภาพสินค้าที่ต้องการชุบมาทางไลน์ พร้อมแจ้งวัสดุโลหะ และจำนวนชิ้น หรือ ส่งสินค้ามาที่หน้าร้าน

7.3 : รอเจ้าหน้าที่แอดมินประเมินราคา แล้วแจ้งกลับทางไลน์แชท

***********************************

หากลูกค้าสนใจในบริการของเรา รบกวนติดต่อทางไลน์เพื่อพูดคุยหรือสอถามได้เลยค่ะ (สะดวกตอบไลน์นะค่ะ)

www.umasilver925.com

Line: @umasilver925
เบอร์โทร: 089-4974530 
สะดวกคุยไลน์ (Line) ที่สุดคะ ^0^